Fat transfer (fat grafting , fat injection , Autologous fat transfer)

คือการฉีดไขมันตัวเอง เพื่อเติมเต็มร่อง รอยเหี่ยวย่น ขั้นตอนคือ) แพทย์จะฉีดยาชา แล้วใช้เข็มดูดไขมันขนาดเล็ก(ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเข็มเจาะเลือด) เจาะดูดเอาไขมันบริเวณต้นขา , สะโพก หรือหน้าท้อง จากนั้นจะนำมาผ่านกระบวนการกรองเพื่อเอาน้ำเกลือและยาชาออก ให้ได้ซึ่งเซลล์ไขมันขนาดเล็กที่มีชีวิตอยู่ (Viable fat Cells) เพื่อเตรียมฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง เติมเต็มร่องคล้ายกลังการฉีด Filler โดยใช้ HA

ข้อดีของการฉีดไขมันเมื่อเทียบกับการฉีดสาร HA

ผลของการรักษา โดยวิธีนี้คือ ถ้าไขมันติดกับผิวหนังได้ดี(take)จะทำให้เกิดเป็นเซลล์ไขมันที่มีชีวิตและอยู่ติดค่อนข้างทนทาน (Long lasting) กว่าการฉีด HA(ซึ่งมักจะสลายหมดภายใน 6 เดือน) และตัดปัญหาเรื่องสารปลอมปนตกค้างจากการฉีดfillerที่ไม่บริสุทธิ์

 

ข้อเสียของวิธีนี้คือ

1. ต้องทำการฉีดยาชาเพื่อดูดไขมันออกจาก Donor Site เช่น ต้นขา สะโพก หรือหน้าท้อง ซึ่งอาจทำให้เกิดการเขียว ช้ำ บวม รวมถึงเจ็บในบริเวณนี้ด้วย
2. การฉีดไขมัน มักจะมีเซลล์ไขมันบางส่วนที่เลือดมาเลี้ยงไม่ดี และฝ่อตายไปในที่สุด ทำให้เกิดร่องกลับมาอีก การฉีดไขมันมีโอกาสที่เซลล์จะติดและมีชีวิตอยู่ต่อได้ ในช่วง 40-60% จึงมักต้องมีการฉีดซ้ำอีกครั้ง (แต่ในส่วนที่ติดก็จะอยู่ต่อได้นานมากกว่ามาก)

เทคนิคการผ่าตัดของแพทย์ในการดูดไขมัน และกรองไขมันที่ถูกต้อง จะเพิ่มโอกาสการติด(take)ของไขมันได้

ฉีดไขมันตรงไหนได้บ้าง

สามารถใช้เทคนิคนี้ในการเติมเต็มร่องลึกต่างๆ เช่นที่ข้างจมูก (Nasolabial Fold) เติมโหนกแก้ม (Cheek) เติมคาง (Chin) ร่องใต้ตา หรือหวังผลเพื่อยกกระชับหรือเติมเต็มผิวหนังบริเวณใบหน้า นอกจากนี้ยังสามารถฉีดที่เต้านมได้ แต่ต้องใช้การดมยาสลบเพราะต้องดูดไขมันปริมาณมาก และผลการติดของไขมันไม่แน่นอนเท่าการเสริมเต้านม

หลังฉีดไขมันแล้วจะรู้สึกอย่างไรบ้าง และต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

• หลังฉีดไขมันบริเวณใบหน้า ในบางรายก็อาจมีอาการบวมหรือช้ำจากการฉีดบ้าง ซึ่งจะคงอยู่ไม่นาน
• โดยปกติขบวนการงอกของเส้นเลือดเข้าไปเลี้ยงไขมันเพื่อให้เกิดไขมันที่มีชีวิตและติดคงทนยาวนาน จะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ จากนั้นร่างการจะสร้างสารเพื่อให้เกิดความคงทนของเส้นเลือดที่มาเลี้ยงเซลล์ไขมันนั้นต่ออีก 2 สัปดาห์ ดังนั้นในช่วง2 สัปดาห์แรก จึงควรหลีกเลี่ยงการนวดคลึงบริเวณที่ฉีด ( แต่ล้างหน้า อาบน้ำได้ตามปกติ)

 

 

ข้อควรปฏิบัติ

1. หลังฉีดไขมันบริเวณใบหน้า ควรนอนยกศีรษะสูง เพื่อลดอาการบวมบริเวณใบหน้า
2. หลีกเลี่ยงการนวดคลึงบริเวณใบหน้า และงดการออกกำลังกายที่หนักมากประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด
3. พบแพทย์ 1 สัปดาห์และ 1 เดือนหลังฉีด

ผลข้างเคียงของการฉีดไขมัน

1. อาการช้ำ , จ้ำเลือด,บวม
2. ผิวขรุขระบนผิวหนังที่ดูดไขมันออกไป
3. ผิวหนังตาย จากการฉีดที่ตื้นเกินไปและปริมาณมาก
4. ไขมันฝ่อหรือตายไป (ไม่ติด)
5. ผลการรักษาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรือมีความไม่เท่ากันเพราะมีหลายปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก