อยากเสริมเต้านมต้องเริ่มอย่างไร

หมอจะขอเล่าขบวนการคร่าวๆ และวิธีคิด-ตัดสินใจของคนไข้ในรายนี้นะคะ

คนไข้รายนี้เป็นผู้หญิง สูง 160 ซม. น้ำหนัก 48 กก. รูปร่างสมส่วน เป็นผู้หญิงทำงาน ม ต้องยกของหนักเป็นบางครั้ง ชอบออกกำลังกายมากๆ ปัญหาหลักคือไม่มั่นใจกับขนาดหน้าอก เพราะหลายครั้งที่สวมใส่ชุดว่ายน้ำแล้วไม่สวยงาม รวมทั้งเวลาใส่เสื้อผ้าไปทำงานก็ดูไม่สง่างามด้วย

เธอเข้ามาพบหมอและให้ประวัติว่า เดิมทีใส่ชั้นในขนาด 70A ต้องการเพิ่มขนาดให้เป็น cup C และต้องการใส่ถุงเต้านมเทียมขนาด300 ml ขึ้นไป(มีเพื่อนๆใส่ขนาดมากกว่านี้หมด) หมอพิจารณาตาม อายุ รูปร่าง ขนาดลำตัว รวมทั้ง Life Style และงานที่ทำแล้ว คิดว่าถุงเต้านมขนาด 300ml ก็พอใส่ได้ค่ะ แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ การกะขนาดหรือพูดคุยกันแบบนี้จะทำให้ไม่เห็นภาพว่าหลังผ่าใส่ถุงซิลิโคน300ml รวมกับขนาดเต้านมเดิม จะออกมาเป็นอย่างไร หมอจึงแนะนำให้เธอลองชุดVolume Sizing Systemที่คลินิกหมอเพื่อให้เห็นภาพที่ใกล้เคียงมากที่สุดว่า ถ้าใส่ถุงเต้านมเทียมขนาด 300 ml รวมกับเต้านมเดิมของเธอ จะออกมาเป็นอย่างไร หลังจากเธอลองแล้ว พบว่า “ใหญ่มาก” เธอไม่ชอบรู้สึกว่ามันใหญ่ไป เธอชอบที่ขนาด250- 275ml มากกว่า

Volume Sizing System ไม่ใช่เต้านมที่เป็นถุงแล้ว และไม่ใช่ถุงที่จะนำไปใส่ในการผ่าตัดจริง การนำถุงเต้านมจริงที่มีขนาดต่างๆ มายัดในเสื้อชั้นใน จะไม่ทำให้เห็นขนาดที่ใกล้เคียงกับตอนผ่าตัดเสร็จแล้วนะคะ เพราะมันไม่แนบไปกับเนื้อเต้านมเดิมค่ะ

หมอได้ทำการตรวจร่างกายและวัดขนาดหน้าอกของเธอโดยละเอียด พบว่ารอบตัวเธอไม่กว้างมากนักและเต้านมบริเวณเนินอกมีค่อนข้างน้อย (เป็นผู้หญิงรูปร่างเล็กบอบบาง) ถ้าต้องการ Volume 275 ml หมอจึงแนะนำ ถุงเต้านมที่มีลักษณะความพุ่งสูงสุด :High Profile ( ถุงเต้านมคร่าวๆ จะมีความพุ่งแบบLow , Moderateและ High Profile)ดังนั้นเราจึงได้ข้อสรุปกันที่ ถุงซิลิโคนทรงกลมผิวหยาบ(ผิวทราย), 275 ml , High Profile

เสริมหน้าอกเชียงใหม่

ขั้นตอนการผ่าตัดทำอย่างไร และทำที่ไหนดี

การผ่าตัดเสริมเต้านมเป็นการผ่าตัดใหญ่และเป็นการเสริมของเทียมเข้าไปในร่างกาย จึงต้องคำนึงเรื่องความสะอาด ปราศจากการปนเปื้อนในทุกขั้นตอน  ดังนั้นจึงต้องทำในห้องผ่าตัดที่มีระบบการฆ่าเชื้อที่มีมาตรฐานสูงสุด การติดเชื้อจากวัสดุ อุปกรณ์หรือห้องผ่าตัดที่ไม่สะอาด รวมทั้งการผ่าตัดที่แพทย์และผู้ช่วยไม่ใส่ชุดปลอดเชื้อ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อของเต้านมเทียม ซึ่งส่งผลให้เต้านมเทียมแข็งตัวได้ง่าย  การติดเชื้อรุนแรงจะทำให้เกิดหนอง ต้องมาผ่าตัดระบายหนองออกและหากการติดเชื้อนั้นเข้าสู่กระแสเลือด อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

ดังนั้นหมอจึงแนะนำ “ทำให้ห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลเท่านั้น”

จำเป็นต้องดมยาสลบไหม

เพื่อความปลอดภัยแล้วจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องผ่าตัดผ่านการดมยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การผ่าตัดเสริมเต้านมใต้กล้ามเนื้อ บางครั้งในกระบวนการผ่าตัดจะทำให้มีอาการเจ็บมาก การฉีดยานอนหลับเข้าเส้นเลือดร่วมกับยาชาเฉพาะที่ อาจทำให้ระงับอาการปวดได้ไม่หมด นอกจากนี้การฉีดยาโดยไม่ใช้ผู้เชี่ยวชาญ อาจทำให้ได้ยาในปริมาณมากเกินไป จนทำให้คนไข้หยุดหายใจได้ อันตรายอย่างยิ่งค่ะ หมอไม่แนะนำให้คนไข้ประหยัดเงินอีกเพียงเล็กน้อย แลกกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นถึงขั้น เสียชีวิตได้นะคะ

ดังนั้น”ผ่าตัดเสริมเต้านมควรทำในห้องผ่าตัดใน  รพ. ภายใต้การดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์เท่านั้นค่ะ”หมอจะทำที่ รพ.เชียงใหม่ราม , รพ.ศรีพัฒน์  รพ.กรุงเทพ-เชียงใหม่และ รพ.ราชเวช ราคาแตกต่างกันไปตามค่าบริการของ รพ. แต่ละแห่งค่ะ

 

แผลตรงไหน  ใหญ่มากไหมและใส่ถุงที่ชั้นไหน

แผลที่จะใส่ถุงเต้านมมีได้หลายทาง ที่นิยมคือใต้ราวนม ปานนม และรักแร้  ในกรณีของคนไข้รายนี้มีปานนมขนาดไม่ใหญ่มาก และไม่อยากมีความเสี่ยงกับท่อน้ำนม ประกอบกับ life Style ที่ชอบใส่เสื้อกล้าม แขนกุด และใส่ชุดว่ายน้ำ เธอจึงไม่อยากมีแผลที่รักแร้ หมอได้แนะนำเธอไปว่าแผลใต้ราวนมน่าจะดีที่สุดสำหรับเธอ แต่ต้องรับความเสี่ยงเรื่องแผลเป็นนูนหลังผ่าตัด เพราะแผลบริเวณนี้ ถ้าในคนผิวสองสีหรือผิวคล้ำมีโอกาสเกิดแผลเป็นนูนได้ง่าย การดูแลและป้องกันหลังผ่าตัดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ส่วนถุงเต้านมนั้น หมอแนะนำชั้นใต้กล้ามเนื้อ แม้หลังการผ่าตัดชนิดนี้จะเจ็บมากกว่าการใส่บนกล้าม แต่เจ็บปวดก็มียาบรรเทาค่ะ (ไม่เจ็บมากขนาดสิบล้อทับนะคะ เพราะสิบล้อทับคงไม่ทันได้เจ็บแน่ค่ะ)แต่ในแง่ของโอกาสการแข็งของซิลิโคน(capsular contracture) หากใส่ชั้นใต้กล้ามและเลือกเป็นถุงผิวหยาบ ก็จะมีโอกาสแข็งน้อยสุดค่ะ

ในรายนี้หมอผ่าตัด โดยเลือกแผลใต้ราวนม  ใส่ถุงซิลิโคนของ Mentor, Siltex , Round , High Profile 275 ml ใต้กล้ามเนื้อ ใช้เวลาผ่าทั้งหมด 1 ชั่วโมงค่ะ หลังผ่าหมอใส่สายระบายเลือดทุกเคสนะคะนอนพักฟื้นที่ รพ. 1 คืน มีการปวดบ้าง เธอขอยาแก้ปวดแบบฉีดไป 1 ครั้ง ที่เหลือใช้ยาแก้ปวดแบบทานก็เพียงพอที่จะระงับอาการปวดได้ค่ะ หมอให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด 3 ครั้ง (24 ชั่วโมง)และอนุญาตให้กลับบ้านได้

แผลผ่าตัดในเคสนี้ อยู่ในพลาสเตอร์ที่หมอปิดไว้ตัวพลาสเตอร์(ในรูป)มีความยาว 5 ซม.  แผลซ่อนอยู่ในพลาสเตอร์ทั้งหมด นั่นแปลว่าแผลยาวรวมๆ 5 ซม.ค่ะ  แต่หมอไม่อยากให้พุ่งความสนใจไปที่ความยาวของแผลนะคะ

การเปิดแผลที่กว้างขึ้นเพื่อให้การหยุดเลือดระหว่างผ่าตัดเป็นไปอย่างเหมาะสม และ Set ตำแหน่งถุงได้เหมาะเจาะจะเป็นผลดีมากกว่าที่จะพยายามทำผ่านแผลเล็กๆ แต่มีความเสี่ยงของภาวะเลือดออกหลังผ่าตัด หรือการเบี้ยวบิดของถุงค่ะ

เสริมหน้าอกเชียงใหม่2

ความยาวของแผลจึงขึ้นกับวิจารณญาณและการตัดสินใจของแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการผ่าตัดในแต่ละเคสไปค่ะ
หลังผ่าตัด 1 วัน หากไม่มีเลือดออกจำนวนมากในสายระบาย หมอจะอนุญาตให้กลับบ้านได้  แผลหลังผ่าตัดนั้นหากไม่มีเลือดซึมก็ไม่จำเป็นต้องทำแผล พลาสเตอร์กันน้ำคนไข้จึงอาบน้ำได้ค่ะ

หมอนัดเธอมาตัดไหม 1 สัปดาห์หลังจากนั้น พบว่าปกติดี ยังมีอาการเจ็บอยู่แต่ไม่มาก ในระหว่างหนึ่งสัปดาห์หลังผ่าตัดนี้ เธอสามารถทำงานเล็กๆ น้อยๆได้ค่ะ แต่หมอยังไม่อนุญาตให้ยกของหรือออกกำลังกายหนักๆ  ไม่ให้ขับรถหรือใช้กล้ามเนื้อหน้าอกมาก เพราะอาจจะมี Re-bleeding หรือภาวะเลือดออกหลังผ่าตัดได้ เธอพอใจกับหน้าอกใหม่ มั่นใจมากขึ้น รู้สึกว่าพอเหมาะกับขนาดลำตัว อายุ และ Life Style ของเธอ

แผลผ่าตัดหากมองจากด้านหน้าจะซ่อนอยู่ใต้ราวนม มองไม่เห็นเลยค่ะ ไม่มีแผลเป็นนูน เพราะเธอดูแลแผลหลังผ่าตัดดีมาก ปฏิบัติตามคำสั่งหมดอย่างเคร่งครัด

เสริมหน้าอกเชียงใหม่

ตอนนี้ 6 เดือนหลังผ่าแล้ว เธอไม่มีอาการเจ็บ ขับรถไปทำงาน ไปว่ายน้ำและออกกำลังได้ตามปกติ เธอมั่นใจเวลาสวมใส่เสื้อผ้า และภูมิใจที่มีหน้าอกขนาด 35C เป็นของตัวเองค่ะ

error: Content is protected !!