ศัลยกรรมลดขนาดถุงใต้ตา
ศัลยกรรมลดขนาดถุงใต้ตา
ถุงใต้ตาคืออะไร
- ถุงใต้ตาคือถุงไขมันที่อยู่บริเวณเปลือกตาล่าง เป็นถุงไขมันปกติที่พบได้ในทุกคน แต่ในบางรายไขมันจะมีขนาดโตขึ้น ทำให้เห็นเป็นถุงขนาดใหญ่อยู่ใต้ตา (Baggy Eyelids) ส่งผลให้ดูแก่กว่าวัยและหน้าตาไม่สดใส เหมือนคนอดนอนอยู่ตลอดเวลา
ถุงใต้ตาพบได้ในวัยไหนบ้าง
- ถุงไขมันใต้ตาที่โตขึ้นสามารถพบได้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นแต่จะพบมากในวัยกลางคน-สูงอายุ เพราะกล้ามเนื้อที่อยู่บนถุงไขมัน (ซึ่งทำหน้าที่เสมือนกดถุงไว้ไม่ให้มองเห็น) อ่อนแรงลง ทำให้เห็นถุงชัดเจน
การลดขนาดถุงใต้ตานอกจากการผ่าตัด สามารถใช้ Laser หรือฉีด Botox ได้หรือไม่
- ไม่แนะนำให้ใช้ Botox เพื่อใช้ลดถุงไขมันใต้ตา เพราะ Botox ไม่ได้มีผลต่อการสลายไขมันแต่จะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อใต้ตาเป็นอัมพาต กล้ามเนื้อนั้นทำหน้าที่กดถุงใต้ตาไว้ไม่ให้เห็นได้ชัดเจน การฉีด Botox ลงใต้ตาโดยตรง จะทำให้เห็นถุงไขมันใต้ตาได้ชัดเจนขึ้นไปอีก
- ส่วน Laser บางชนิดอาจจะสามารถกระชับถุงไขมันใต้ตา จึงดูเหมือนลดขนาดลง แต่ไม่สามารถใช้ลดถุงใต้ตาที่มีขนาดใหญ่จนมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอกได้ อีกทั้งผู้ที่มีถุงไขมันใต้ตาขนาดใหญ่มักจะมีผิวหนังใต้ตาเกินและหย่อนคล้อยซึ่งต้องทำการกำจัดโดยการผ่าตัด เพื่อให้ได้ผิวหนังใต้ตาที่เรียบตึงและสวยงาม
การดูแลหลังการผ่าตัด
- ใน 2 วันแรกหลังการผ่าตัด ควรใช้การประคบเย็น อาจใช้ถุงเจลเย็นหรือถุงพลาสติกสะอาดห่อน้ำแข็งแล้วประคบโดยตรงก็ได้
- ใน 2 คืนแรกหลังการผ่าตัดมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนอนยกศีรษะสูง (หนุนหมอน 2 ใบ) เพื่อช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง บรรเทาอาการบวมได้อย่างมาก
- หากมีเลือดออกบริเวณแผลผ่าตัด ให้ใช้ก้านสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือหรือน้ำต้มสุกเช็ดเอาคราบเลือดออกให้แผลสะอาด
- วันที่ 3 หลังการผ่าตัดหากมีรอยช้ำ-เขียว ให้ใช้การประคบอุ่น ทำได้โดยใช้เจลอุ่นหรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นประคบไปที่แผล
- ทานยาแก้อักเสบลดบวม ตามที่แพทย์สั่งให้
- วันที่ 5-7 หลังผ่าตัด แพทย์จะนัดมาเพื่อตัดไหมภายนอกและตรวจเช็คผลการผ่าตัด
- หลังการตัดไหมสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ หนังตาในผู้รับการผ่าตัดบางท่านอาจยังบวมหรือฟกช้ำอยู่แต่จะไม่มากแล้ว
- อาการบวมและฟกช้ำจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์จึงจะหายไปทั้งหมด
- หากมีปัญหาสงสัย ให้ติดต่อแพทย์ในช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ( 061-2682277 , LineID: drputtan )